05 Dec

ไบรอัน เฮนเดอร์สัน เล่าว่าลูกชายของเขาเคยกล่าวคำหนึ่งไว้ตอนนั่งดูแมตช์ชิงแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง เอซี มิลาน กับ ยูเวนตุๆส เมื่อปี 2003 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แทงบอลออนไลน์UFABET


"บิดาขอรับ, วันใดวันหนึ่งผมควรต้องไปลงเล่นเกมอย่างนี้ให้ได้" เด็กน้อยวัย 10 ขวบ กล่าวคำนั้นโดยไม่รู้เรื่องว่าสิ่งที่เอ่ยออกไปมันจะเกิดขึ้นเมื่อไร มันจะเกิดขึ้นจริงๆไหม หรือเป็นเพียงแค่ความฝันที่เด็กๆต่างก็มีความมุ่งมาดปรารถนาไม่ได้แตกต่างกัน

16 ปีผ่านไป ไบรอัน ได้โอกาสเข้าชมเกมนัดหมายชิงฯ รายการนั้น ถึงสองปีต่อเนื่องกัน ซึ่งครั้งปัจจุบัน นับว่าเป็นสิ่งที่ภูมิใจเอามากๆเพราะว่าผู้ที่ยกถ้วยเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลูกชายของเขาเอง

ไบรอัน เฮนเดอร์สัน เป็นตำรวจปลดเกษียณราชการเคยเป็นนักเตะของ มองร์หมูแฮม กลุ่มบอลในกรมตำรวจ เมียของเขาเป็น ลิซ มีอาชีพเป็นคุณครูสอนฟิตเนสระดับมือโปร


จอร์แดน เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวนี้ มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ โจดี้ ชีวิตในวัยเด็กเติบโตที่เมืองซันเดอร์แลนด์ ทางภาคอีสานของเกาะอังกฤษ

ไบรอัน รักบอลมากมายรวมทั้งโชคดีที่ลูกชายก็รักบอลเช่นเดียวกัน เขาส่ง จอร์แดน เข้ามาเป็นเด็กในสังกัด ซันเดอร์แลนด์ ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยตอนต้นเริ่มเล่นเป็นกองหน้าพร้อมกันกับปีกขวา ก่อนที่จะถอยลงเล่นเป็นกองกลางตัวกลางและก็เล่นตำแหน่งนี้มาตลอดทั้งอาชีพการเล่น

ความชำนาญของ เฮนเดอร์สัน นับว่าเด่นเหนือเด็กอังกฤษผู้อื่นเคยมีคลิปหนึ่งบอกให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเดาะบอลที่เรียกเสียงฮือฮาจากสหายๆรอบตัว


ตอนอยู่กลุ่มรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีของ ซันเดอร์แลนด์ เขายอดเยี่ยมในนายทัพกลุ่ม ยู-18 ได้แชมป์ลีกสองยุคติด ฝีเท้าปรับปรุงกระทั่งถูกเรียกติดกลุ่มชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี รวมทั้งถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์ระยะสั้นๆที่ วัวเวนทรี 6 เดือน ตอนม.ค. 2009 แล้วก็กลับมาเป็นตัวหลักของ ซันเดอร์แลนด์ ในวัยไม่ถึง 20 ปี

ชีวิตของ เฮนเดอร์สัน เรียบง่าย ราวกับเด็กธรรมดาทั่วๆไป ไม่มีข่าวสารหวือหวา เป็นเด็กดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ รวมทั้งมีรักเดียวใจเดียวเป็น รีเบ็คก้า เบอร์เน็ตต์

แต่ ซัมเมอร์ปี 2011 เฮนเดอร์สัน โดนจับตามองมากขึ้นข้างหลัง เคนนี่ ดัลกลิช ดึงเขามาอยู่กับ หงส์แดง ด้วยจำนวนเงินถึง 20 ล้านปอนด์ เงินปริมาณนี้จัดว่าสูงมากมายกับนักฟุตบอลที่อายุเพียงแค่ 21 ปี แล้วก็ตอนแรกกับชีวิตที่บ้านข้างหลังใหม่ เฮนเดอร์สัน จะต้องหามแรงกดดันเรื่องค่าตอบแทนบนบ่าทั้งคู่รวมทั้งการมาของ เบรนดินแดน ร็อดพบร์ส กุนซือลิเวอร์พูลขณะนั้น ก็แทบทำให้เขาจำต้องย้ายออกจากกลุ่มก่อนที่จะถึงเวลาอันควรจะ

โน่นเป็นจุดเริ่มแรกความลำบากตรากตรำแล้วก็ปัญหาบนทางนักฟุตบอลอาชีพของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ซัมเมอร์ปี 2012 ร็อดพบร์ส อยากได้ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ของ ฟูเฉือนม เอามากๆถึงขนาดยอมส่ง เฮนเดอร์สัน ไปเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน จะว่าไปมันก็ชั่วร้ายกับเขาเช่นเดียวกัน กับการที่กำลังจะถูกแลกเปลี่ยนกับผู้เล่นวัยใกล้ 30 แถมยังเพิ่งจะอยู่กับกลุ่มได้เพียงแค่ปีเดียว


ความจำสีเทาเกิดขึ้นตอนตอนบ่ายของวันพฤหัสบดี ที่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โฮป สตรีท จุดศูนย์กลางเมืองหงส์แดง

ก่อนเกมยูโรปา ลีก รอบเพลย์ ออฟ ที่จะเจอกับ ฮาร์ทส ร็อดพบร์ส เดินเข้ามาพร้อมคำบอกเล่าหนึ่งประโยคที่ค้างคาใจของ เฮนเดอร์สัน "เบรนดินแดน โทรศัพท์หาผมแล้วกล่าวว่า -ฟังนะ, นี่เป็นข้อแนะนำ(แลกเปลี่ยนกับ เดมพ์ซี่ย์)- เขาถามคำถามว่าผมคิดอย่างไรกับดีลนี้"

สิ้นเสียงของนายจ้าง เฮนเดอร์สัน หลั่งน้ำตาด้วยความเศร้าใจ มันเป็นความรู้สึกที่แสนเจ็บ ทั้งๆที่อีกไม่กี่ชั่วโมงเขากำลังจะลงแข่งขันในคืนนั้น

"ผมไปคุยกับเอเยนต์ แล้วก็บอกเขาว่ากำเนิดอะไรขึ้น ผมบอกไปว่าผมไม่ต้องการที่จะอยากจะย้ายออกเลย ผมอยากได้อยู่รวมทั้งสู้ต่อ จะพากเพียรพิสูจน์ให้มีความคิดเห็นว่ากุนซือคิดผิด"

แล้วหลังจากนั้น เฮนเดอร์สัน โทรศัพท์หาบิดาเพื่อระบายความรู้สึก รวมทั้งย้ำความปรารถนาของตนเองว่าจะอยู่เพื่อสู้ต่อ ข้างป๊ะป๋า ไบรอัน ฟังรวมทั้งเศร้าใจไม่แพ้กัน ซึ่งท่านก็ไม่ขัดอะไรรวมทั้งพร้อมสนับสนุนตามสิ่งที่ต้องการของลูกชาย

จากจุดที่ เฮนโด้ ยืนอยู่ขณะนั้น เขารู้สึกตัวดีว่าจังหวะลงไปในสนามมีไม่มากมาย อย่างเดียวที่จะทำเป็นเป็นทำงานมากเข้าไว้ เฮนเดอร์สัน มีความเป็นจริงเป็นจังที่จะเอาชนะดวงใจ ร็อดพบร์ส ในหัวของเขาไม่เคยมีคำว่า 'ย้ายออกจาก หงส์แดง' เลย

เฮนเดอร์สัน เป็นผู้ที่พร้อมปรับปรุงแก้ไขตนเองอยู่ตลอด เขาเดินไปถาม ร็อดพบร์ส ตรงๆเลยว่าจำต้องทำเช่นไรถึงจะได้เป็นตัวจริง

ยังดีที่โชคยังเข้าข้างบ้าง เมื่อ ร็อดพบร์ส พร้อมมอบโอกาสและไม่ได้บังคับให้ เฮนเดอร์สัน จะต้องออกมาจากกลุ่ม ร็อดพบร์ส เปิดคลิปให้ เฮนเดอร์สัน มอง แล้วชี้แจงข้อบกพร่องของ เฮนเดอร์สัน ว่ามีอะไรบ้าง แล้วต่อจากนั้นก็ถามกลับว่า ต้องการจะปรับปรุงแก้ไขมันไหมล่ะ?


จากเดิม เฮนเดอร์สัน เป็นผู้ที่ขยันทำงานมากอยู่แล้ว ถึงเดี๋ยวนี้ความขยันนั้นมันเพิ่มจากเดิมเป็น 10 เท่าจนกระทั่งส่งกระทบถึงชีวิตสมรส

"รีเบ็คก้า เมีย กล่าวว่าในตอนสองสามปีนั้น ผมมิได้เป็นผู้นำครอบครัวที่น่ารักน่าเอ็นดูเท่าไร" เฮนเดอร์สัน เอ๋ยถึงความรู้สึกของเมียในตอนที่เขาจำต้องต่อสู้เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งกับกลุ่ม

มูลเหตุที่ รีเบ็คเก้า กล่าวอย่างนั้นก็เพราะว่าผัวของคุณมัวแต่ขยันซ้อม ใช้เวลาอยู่แต่ว่าในยิม พอกลับถึงที่หน้าบ้านก็นอนในทันทีกระทั่งไม่ว่างให้ครอบครัว

"ขณะที่คุณยังเด็ก ประเด็นต่างๆมันบางทีอาจมีผลเสียต่อคุณ บอลเป็นชีวิตของผม ตั้งแต่เป็นเด็กตัวเล็กๆบอลเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในชีวิตของผม ไม่ว่ารอบกายมันจะคืออะไรหรือกำเนิดอะไรขึ้น แต่ว่าผมก็ต้องการทำแบบนั้น เมื่อหลายสิ่งหลายอย่างมันไม่เป็นไปด้วยดี มันก็น่าเจ็บ มันมีผลถึงผมในเวลาที่ผมกลับไปถึงยังหน้าบ้าน มันเป็นตอนๆขณะที่ยากลำเค็ญ แต่ว่าผมก็คิดว่าผมเติบโตขึ้นมากมาย"

ท้ายที่สุด เฮนเดอร์สัน ก็ชนะใจ ร็อดพบร์ส เขายึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างสง่า ความรุ่งโรจน์ทางอาชีพกำลังเติบโต ผลงานของกลุ่มก็กำลังเดินทางไปก้าวหน้า แต่ตอนฤดูใบไม้ร่วง ปี 2013 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ หงส์แดง ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ซิตี้ ไบรอัน บิดาของเขาถูกตรวจเจอว่ามีเชื้อโรคมะเร็งตรงคอ ข้างหลังหมอพบในตอนที่เขาเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะ แต่ว่า ไบรอัน มิได้บอกประเด็นนี้กับลูกชาย เพราะว่ามีความเห็นว่าตอนนั้นเป็นช่วงๆหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าหากขืนบอกไปก็กลัวว่าจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพทางด้านจิตใจจนถึงลุกลามไปถึงผลงานในสนาม


ตอนต้นปี 2014 เฮนเดอร์สัน ทราบเรื่องนี้ก่อนวันที่บิดาจะเข้ารับการบำบัดไม่กี่วัน ในขณะนั้นเขารู้สึกตัวเลยว่านอกจากบอลแล้วอะไรเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด มันเป็นตอนขณะที่ขาดความกรุณาปรานี เขาทำอะไรผิด สิ่งที่เกิดขึ้นมันยากจะเข้าจิตใจ

เฮนโด้ ไม่ค่อยได้พบกับบิดามากสักเท่าไรนัก ข้างหลังเข้ารับการบำบัดทีแรก ร็อดพบร์ส อนุญาตให้กลับไปอยู่บ้านไปเยี่ยมบิดาได้ดังที่ปรารถนา แต่ว่า ไบรอัน สั่งไม่ให้ลูกชายมาหาเพราะว่าเขาไม่อยากให้ จอร์แดน มองเห็นความเจ็บตอนรักษาและไม่ต้องการให้ลูกชายมีภาพติดตาที่ไม่ดีกลับไป

"ผมมิได้พบกับบิดามากแค่ไหนเลย ท่านไม่ต้องการให้ผมไป เบรนดินแดน เขาดีเลิศๆเขากล่าวว่าให้ผมกลับไปอยู่ที่บ้านเมื่อไรก็ได้ที่ผมต้องการพบบิดา ด้วยเหตุดังกล่าว ผมพบท่านครั้งเดียวก่อนที่จะท่านจะเข้าบรรเทา แล้วผมก็พบท่านอีกทีในอีกสองสามอาทิตย์ถัดมา และก็มันก็มิได้ห่วยอะไรเลยนะ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ถึงจุดที่บิดาไม่ต้องการพบผม ซึ่งทั้งผองเพราะว่าภาวะที่ท่านเป็นตอนนั้น"

อย่างเดียวที่ เฮนเดอร์สัน ทำเป็นเป็นอุตสาหะเล่นให้ยอดเยี่ยมในทุกๆเกมการประลอง แล้วก็มันก็เป็นแบบที่เขาตั้งมั่นเนื่องจาก หงส์แดง เก็บชัยติดต่อกันได้หลายต่อหลายนัดหมาย

"บิดาไม่อยากที่จะให้ผมเห็นท่านในภาวะแบบงั้น โดยเหตุนั้นผมเลยทราบว่าเหตุการณ์มันแย่มากๆผมเสวนากับบิดาอยู่เป็นประจำนะ แต่ว่าอย่างเดียวที่ผมทำเป็นเป็นบากบั่นเล่นให้ดีในตอนสุดสัปดาห์ และก็มันก็โชคดีที่ในตอนนั้นพวกเราเริ่มเก็บชัยได้ในทุกอาทิตย์"

ปี 2015 สตีเว่น พบร์ราร์ด ล่ำลากลุ่ม ปลอกสำหรับใส่แขนกัปตันเป็นของ เฮนเดอร์สัน แม้กระนั้นก็ไม่แคล้วตัวเขาโดนวิภาควิจารณ์ว่ามีคุณลักษณะไม่เหมาะสมที่จะตกทอดตำแหน่งนี้จากกัปตันคนก่อน


แต่ กัปตันเฮนโด้ ก้มหน้าก้มตาทำงานมากถัดไป เขาถือคติว่า อะไรที่ไม่ดีที่เขาโดนต่อว่าต่อขานมันเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ตนเองเก่งขึ้น

"ผมเกลียดอ่านอะไรที่มันเป็นการดีๆเกี่ยวกับตัวผมเลย กับพวกข้อวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งเรื่องลบ ผมมักคิดเสมอว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเก่งขึ้น จริงอยู่ว่าคุณอยากได้คำยกย่องสักหน่อยอยู่ตลอด แม้กระนั้นสำหรับผมแล้วคำชมเชยที่สำคัญมันจะต้องมาจากผู้จัดการทีมฟุตบอล โน่นเป็นคำยกยอที่จะทำให้ผมกระปรี้กระเปร่า ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดผู้จัดการทีมฟุตบอลบอกกับผมว่าผมปฏิบัติภารกิจได้สมควรมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่สุดยอด ซึ่งผมจะพากเพียรไม่สนใจคำยกย่องของผู้อื่นเลยนะ นอกเหนือจากกุนซือ"

ต.ค. ปี 2015 หงส์แดง เปลี่ยนมือจาก ร็อดพบร์ส มาเป็น พบร์เก้น คล็อปป์ แม้กระนั้นโน่นก็มิได้ทำให้ เฮนเดอร์สัน ตกอยู่ในเหตุการณ์ตรากตรำ เพราะเหตุว่า คล็อปป์ แลเห็นสิ่งที่เขาทุ่มเทอยู่เป็นประจำ

"ผมยังอายุน้อยในระดับหนึ่งจนถึงทำให้สามารถก้มหน้าก้มตาดำเนินงานสิ่งเดียวได้, ดำเนินงานอย่างมากถัดไปได้, ทำบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติมอีกได้ และก็พิสูจน์ให้มีความเห็นว่าพวกเขาคิดผิดได้ ซึ่งผมก็มีความรู้สึกว่าผมมาทำแบบนั้นได้ขณะที่ เบรนดินแดน ออกมาจากกลุ่มไปแล้ว ในโลกบอลแล้วก็ในชีวิตของผู้คนน่ะ มันจะมีตอนที่สามารถเป็นตัววินิจฉัยทางแล้วก็อนาคตของคุณได้อยู่ตลอด"

ความนึกคิดของ เฮนเดอร์สัน ที่ถูกปลูกฝังมาจากครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เป็นของขวัญล้ำค่าที่ทำให้เขาเจริญและก็เป็นผู้ที่ไม่เคยยอมยกธงขาว ส่วนใดส่วนหนึ่งคงจะมาจากความเป็นตำรวจของบิดาที่มักมองเห็นเรื่องส่วนกลางมาก่อนเรื่องตัวเองเสมอ

เฮนเดอร์สัน ทำเป็นดีสำหรับในการแบกรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ สิ่งนี้มันฝังลึกเข้าไปในสายโลหิต ไม่ว่าเรื่องในหรือนอกสนามเขายินดีที่จะดำเนินการที่คนอื่นๆไม่ได้อยากทำ เขาชังการเน้นทำเรื่องส่วนบุคคลเป็นหลัก สำหรับ เฮนเดอร์สัน สิ่งที่จำเป็นเป็น การเกื้อกูลเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มเพื่อสหายๆเล่นได้ดิบได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำเป็น เขาอยากให้บรรดาสหายร่วมกลุ่มได้เป็นที่รู้จัก แม้กระทั่งตนเองจะมิได้สัมผัสกับสิ่งนั้นก็ตาม

หน้าที่ของ เฮนเดอร์สัน มิได้มีเฉพาะเพียงแค่ในสนาม เขาทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อกลุ่ม คำว่ากลุ่มเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เขาเพียรพยายามทำให้ในห้องแต่งตัวมีบรรยากาศที่ดี พากเพียรทำให้ทุกคนปฏิบัติงานเพื่อกันและกัน ส่วนนอกสนามเขาก็จะมีผลให้เพื่อนพ้องๆมีความพร้อมใจ เป็นกลุ่มก้อนสนิทกันชนิดเป็นเพื่อนตายได้ ซึ่งทั้งสิ้นเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากสิ่งที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โน่นเป็นนิสัยของ เฮนเดอร์สัน


คุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่ของ เฮนเดอร์สัน เป็นคนสอนเรื่องหน้าที่, ความเสียสละ, การปรนนิบัติ และก็ความรับผิดชอบต่อคนอื่น ท่านพูดเชือนแชมอว่า ไม่ว่ายังไงก็ดี ไม่ว่าจึงควรแข่งขันกับคนไหนกัน ขอให้ทราบไว้ว่าทุกหนมันจะมีผู้ที่รอสอดส่องอยู่เสมอเวลา "ม่าม้าของผมท่านชอบถูกใจบอกว่า -ไม่ว่าลูกจะพบกับผู้ใดกัน มันก็จะมีผู้ที่รอสอดส่องลูกอยู่เสมอ ลูกจำต้องเล่นให้ดีทุกนัดหมายนะ- ซึ่งผมก็อุตสาหะทำอย่างงั้นมาตั้งแต่ขณะที่ยังเป็นเด็ก"

โดยเหตุนี้อะไรที่ เฮนโด้ จะทดแทนได้ เขาก็พร้อมจะทำ

"ผมจะเป็นหนี้บุญคุณทั้งคู่ท่านไปตลอดชาติ แล้วก็ผมก็บากบั่นที่จะทำให้พวกท่านรู้สึกพึงใจในทุกๆครั้งที่ผมได้ลงเล่น"

"คุณจะต้องมานะทำให้ยอดเยี่ยมเท่าที่จะทำเป็นในทุกๆวัน คุณสามารถเอาหลักความนึกคิดอย่างงั้นมาใช้กับทุกๆอย่างในชีวิตได้เลย คุณจำต้องมานะทำให้ตนเองดียิ่งขึ้นในทุกวัน คุณจะทำผิดพลาดได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งจำเป็นมันอยู่ที่ว่าคุณจะศึกษาจากข้อผิดพลาดพวกนั้นได้อย่างไร ผมเพียรพยายามที่จะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะทำเป็นเพื่อกลุ่มนี้ รวมทั้งเพื่อครอบครัวของผม"

ไม่นานภายหลังที่ คล็อปป์ เข้ามารับงานคุมกลุ่ม หงส์แดง เขาก็รู้เรื่องได้ในทันทีว่า เฮนเดอร์สัน กำลังแบกรับภาระเอาไว้แค่ไหน รวมทั้งเขาก็อุตสาหะที่จะช่วยแบ่งเบาภาระนั้นด้วยผู้กระทำระจายความรับผิดชอบไปให้ผู้อื่นบ้าง แต่ว่าลักษณะของการป่วยของพ่อเป็นสิ่งที่ทำให้ เฮนเดอร์สัน กลุ้มใจสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ

ตลอด 4 ปีที่ ไบรอัน เข้ารับการดูแลรักษา เฮนเดอร์สัน แทบจะมิได้พบบิดาเลย ไบรอัน ไม่อยากที่จะให้ลูกชายคิดมาก ต้องการให้มีสมาธิกับอาชีพนักเตะ

กระทั่งในที่สุด ไบรอัน หายสนิทจากโรคร้ายนี้รวมทั้งพร้อมจะเข้าดูนัดหมายชิงแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 ที่ หงส์แดง พบกับ เรอัล มาดริด เขาเดินทางไปที่ เคียฟ เพื่อมอง จอร์แดน ลงเล่น หากแม้มันเป็นเกมที่ลูกชายกระทำตามคำกล่าวได้จริง แต่ว่าผลจากการแข่งขันมันมิได้เป็นอย่างที่คาดหวัง

มันเป



Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING