ทีมชาติอังกฤษ เสร็จสิ้นภารกิจรอบคัดเลือก ฟุตบอลยูโร 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยผลงานแข่ง 8 นัด ชนะ 7 แพ้ 1 ผ่านเข้ารอบไปพร้อมกับทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก สมัครเว็บพนัน1XBET


    โดยทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมสิงโตคำราม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าตัวเขามีผู้เล่นตัวจริงในใจแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีตัวเลือกอีกหลายคนในตำแหน่งเดียวกัน

    จากประเด็นดังกล่าว สปอร์ตเมล์ ได้จัดให้เหล่ากูรู ลองจัด 11 ผู้เล่นตัวจริงและระบบของทีมชาติอังกฤษ ที่จะใช้ในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย ซึ่งหน้าตาจะเป็นยังไง แต่ละคนจัดตัวถูกใจไหม ไปดูกันได้เลย

 

    คริส ซัตตัน (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, แฮร์รี่ วิงค์ส, เจมส์ แมดดิสัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    มาร์ติน คีโอว์น (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, โจ โกเมซ, เบน ชิลเวลล์ - อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เมสัน เมาน์ท - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    เอียน เลดี้แมน (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ วิงค์ส - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    ซามี่ ม็อคเบิล (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - เจมส์ แมดดิสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ วิงค์ส - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    โดมินิค คิง (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ วิงค์ส - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    เอียน เฮอร์เบิร์ต (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, โจ โกเมซ, เบน ชิลเวลล์ - อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ แมดดิสัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    ปีเตอร์ เคร้าช์ (4-3-3)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - แฮร์รี่ วิงค์ส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ แมดดิสัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    จิลล์ สกอตต์ (4-4-2)

    จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ - เจดอน ซานโช่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เมสัน เมาน์ท, ราฮีม สเตอร์ลิง - แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด




เกือบทุกคนเห็นตรงกันว่าขุมกำลังชุดปัจจุบันนี้ของ หงส์แดง สมาคมยักษ์ใหญ่ที่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกือบจะถึงกับขนาดเพอร์เฟ็ค ถึงแม้ระยะหลังจะเสียประตูบ่อยมากจนกระทั่งขั้นเก็บคลีนชีทมิได้มาแล้ว 9 ครั้งติดต่อกันในทุกรายการ แม้กระนั้นมันก็ยังไม่ถึงกับขนาดรุนแรง ส่วนเกมรุกก็ดุเดือดสุดๆเพราะเหตุว่าตลอดทั้งฤดูนี้พวกเขาทำประตูมิได้แค่นัดเดียวจาก 19 เกมในทุกรายการ โน่นเป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แพ้ ที่นาโปลี 0-2 ทางเข้า1XBETเว็บพนันออนไลน์


แต่ ตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้มันก็มีข่าวลืออยู่เรื่อยว่า หงส์แดง สนใจในตัว ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ กองหน้าคนเก่งของ เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์ซิกข์ กลุ่มแข็งที่เวที บุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่ ภายหลังว่ากันว่า พบร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล "ลิเวอร์พูล" เป็นแฟนตัวยงของเขามานานแล้ว


ดังนี้ แวร์เนอร์ ได้รับการเฝ้ามองจากคนภายในแวดวงบอลเยอรมันมาพักใหญ่แล้ว ภายหลังทำผลงานได้ดิบได้ดีมาตั้งแต่ฤดู 2016-17 โดยในช่วงฤดูกาลดังที่ได้กล่าวมาแล้วเขาทำเป็น 21 ประตู จากการลงเล่นในลีก 31 นัดหมาย หากว่าในอีก 2 ฤดูกาลต่อมาผลงานจะดร็อปลง จากแนวทางการทำได้ 13 ประตู จากการลงเล่นในลีก 32 เกม ในฤดูกาล 2017-18 รวมทั้ง 16 ประตูจากการลงในสนามในลีก 30 นัดหมาย ในช่วงฤดูกาล 2018-19 แต่ว่าฤดูกาลนี้เขาก็ทำไปแล้ว 11 ประตู จากการลงเล่นในลีก 11 นัดหมาย

ที่แท้เว้นเสียแต่ หงส์แดง มันก็ยังมีอีกหลายทีมที่มีข่าวสารว่าอยากได้ แวร์เนอร์ เช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฯลฯ รวมทั้งวันนี้พวกเราจะมาเจาะลึกผลงานของเขาในช่วงฤดูกาลนี้กันว่ามันดีเพียงใด เพื่อจะได้รับรู้ว่าเขาคู่ควรกับการเป็นจุดมุ่งหมายของเหล่ากลุ่มใหญ่ๆรึเปล่า


- วิธีการทำประตู

การยิงให้ได้เป็นหน้าที่หลักของกองหน้า รวมทั้งดังที่บอกไปข้างต้นว่าเขาทำคะแนนในลีกได้ถึง 11 ลูก จากการลงเล่น 11 นัดหมาย ทำให้ค่าถัวเฉลี่ยกระบวนการทำประตูของเขาอยู่ที่ 1 ลูกต่อนัดหมาย ซึ่งเขานับว่าเป็นชั้นสองในชาร์ตนี้ แพ้เพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิง บาเยิร์น มิวนิค เพียงแค่ผู้เดียวแค่นั้น

นอกเหนือจากนั้น เขาก็สามารถทำแต้มถึงหลัก 11 ลูกได้จากการได้โอกาสยิง 39 ครั้ง ซึ่งขนาด แซร์จ นาบรี้ ดาวเตะ บาเยิร์น จะได้โอกาสยิงน้อยกว่าเขาแค่นิดเดียว ที่ปริมาณ 36 ครั้ง แต่ว่าก็ยังไม่อาจจะทำคะแนนได้เยอะแยะพอๆกับ แวร์เนอร์ เลยด้วย รวมทั้งมันทำให้เห็นว่าเขามีความเฉียบคมในระดับหนึ่งตอนที่จบสกอร์


- การจ่ายบอล

ในแผนของ คล็อปป์ กองหน้าตัวเป้ามิได้มีบทบาทหลักสำหรับเพื่อการทำคะแนนเพียงอย่างเดียว แต่ว่าจะต้องช่วยผ่านบอลให้ปีก 2 ข้างทำแต้มให้ได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็ทำผลงานในจุดนั้นได้อย่างดียิ่งจนกระทั่งช่วยปั้นให้อีกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แล้วก็ ซาดิโอ มาเน่ แปลงเป็นจอมกระหน่ำประตูอยู่ตอนนี้

แต่กระนั้น แวร์เนอร์ ก็มีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการผ่านบอลที่สะดุดตาไม่แพ้กัน เขามีค่าเฉลี่ยการส่งบอลในจังหวะหลักๆในลีกอยู่ที่ 2.2 ครั้งต่อเกม ซึ่งนับว่าสูงเป็นชั้น 6 ร่วมของลีกถ้าเกิดนับรวมทุกตำแหน่ง รวมทั้งเป็นชั้น 1 ถ้าเกิดนับเฉพาะนักฟุตบอลในตำแหน่งดินแดนหน้า ยิ่งไปกว่านี้ เขายังผ่านบอลระยะไกลได้แม่น 0.8 ครั้งต่อเกม สูงเป็นชั้น 3 ของลีกในตำแหน่งดินแดนหน้าด้วย


- การเลี้ยงบอลและก็การครอบครองบอล

การที่จะทำให้เกมรุกตามแผนของ คล็อปป์ ไหลลื่นไปได้ด้วยดีนั้น นักฟุตบอลในดินแดนหน้าก็จะต้องพาบอลขึ้นหน้าให้ดีด้วยเหมือนกัน ซึ่งในช่วงฤดูกาลนี้ แวร์เนอร์ ก็มีความพริ้วไหวพอใช้ เนื่องจากสามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่ปรปักษ์ได้ 1.6 ครั้งต่อนัดหมาย สูงเป็นชั้น 3 ร่วมของนักฟุตบอลในแนวรุก ในกรุ๊ปที่ลงเล่นขั้นต่ำ 8 เกม

ยิ่งกว่านั้น เขาก็ยังเลี้ยงบอลได้ติดเท้าสุดๆกระทั่งทำให้มีค่าเฉลี่ยการโดนแย่งบอลไปจากเท้าเพียง 1 ครั้งต่อเกมเพียงแค่นั้น ซึ่งในกรุ๊ปลำแข้งแนวรุกที่ลงเล่น 8 เกมขึ้นไป ลำแข้งวัย 23 ปีนับว่าเป็นผู้ที่โดนแย่งบอลจากเท้าได้ต่ำที่สุดเป็นชั้น 3 อีกต่างหาก แถมเขายังจับบอลพลาดเพียงแค่ 2.5 ทีต่อเกม ต่ำที่สุดเป็นชั้น 6 ของลีกในกรุ๊ปนั้นด้วย




เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ ตีข่าวสาร บาเยิร์น จ่อมอบคำสัญญาให้ อาร์แซน เวนเกอร์ มาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่ของกลุ่ม โดยตัวคำสัญญาจะส่งผลจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้เพียงแค่นั้น แทงบอลสเต็ป2


บาเยิร์น มิวนิค สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่แวดวง บุนเดสลีกา เยอรมัน ตระเตรียมที่จะยื่นข้อเสนอให้กับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมไม่มีงานทำคนมีชื่อเสียงอย่างเป็นทางการ ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อชั้นแนวหน้าของอังกฤษ


"เสือใต้" พึ่งจะตกลงใจแยกทางกับ นิโก้ โควัช เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา ภายหลังผู้จัดการทีมชาวโครเอเชียพาทีมทำผลงานได้ไม่ดีซักเท่าไหร่ ซึ่งมันก็มีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่กลายเป็นข่าวสารกับการควบคุมกลุ่มต่อจาก โควัช โดยทื่ เวนเกอร์ ก็อยู่ในกรุ๊ปนั้น แถมเจ้าตัวเคยบอกเพราะพอใจที่จะไปปฏิบัติงานในเมืองเบียร์สดแบบเดียวกัน


ดังนี้ เดอะ ซัน บอกเพราะว่าคนใหญ่โตของ บาเยิร์น ถึงกับขนาดติดต่อกับ เวนเกอร์ ไปแล้ว โดยกลุ่มดังของถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า จะให้คำมั่นที่ส่งผลจนกว่าจบฤดูนี้ก่อน แล้วแล้วหลังจากนั้นค่อยตกลงใจในตอนซัมเมอร์ ปีต่อไปว่าจะให้ตำนานที่ปรึกษา อาร์เซน่อล ได้คุมกลุ่มระยะยาวรึเปล่า 


สื่อเจ้าเดิมเสริมว่า เวนเกอร์ จะเจอกับ คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประธานบริหารของ บาเยิร์น เพื่อสนทนาถึงเนื้อหาต่างๆกันแบบเต็มกำลัง ข้างหลังจบเกมลีกนัดหมายที่ บาเยิร์น มีคิวเปิดบ้านพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วันเสาร์ที่ 9 เดือนพฤศจิกายนนี้ โดยผู้จัดการทีมชาวประเทศฝรั่งเศสบางครั้งก็อาจจะได้รับการแต่งให้จับบังเหียน บาเยิร์น ในตอนโปรแกรมเกมกลุ่มชาติครั้งที่ใกล้มาถึง ระหว่างวันที่ 11-20 เดือนพฤศจิกายน นี้ ซึ่งแม้เป็นอย่างงั้นจริงๆมันก็จะมีผลให้เขาได้นำ บาเยิร์น ลงพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ศัตรูตัวฉกาจของ อาร์เซน่อล ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ด้วย




"ไก่เดือยทอง" โชว์ความเหนือข้างหลังดาหน้าบุกย้ำชัยอีกครั้งใส่ เซอร์เวน่า ซเวซด้า 4-0 คว้าชัยสองเกมติดเพิ่มจังหวะเข้ารอบน็อคเอาท์ถัดไป ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนนี้วันพุธก่อนหน้านี้ ในเวลาเดียวกันนี้ ซน ฮึง มิน ที่ทำผู้เดียวสองประตู เกมนี้ได้แสดงท่าสังสรรค์ชัยด้วยการยกมือไหว้สื่อเพื่อขออภัย อังเดร โกเมส ที่เจ้าตัวมีส่วนทำให้ขาหักจนกระทั่งจะต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาล เล่นไฮโลบนมือถือ


สนาม : สตาดิโอน ราจโค มิติช 


ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป บี นัดหมายที่ 4 เจ้าของบ้าน เซอร์เวน่า ซเวซด้า กลับมาเฝ้าบ้านรอคอยการแก้ตัวกับ สเปอร์ส ข้างหลังเกมที่แล้วโดน "ไก่เดือยทอง" กระหน่ำเสียหาย 5-0



เกมนี้เจ้าถิ่น เซอร์เวน่า ส่ง มาร์โก มาริน เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กปั้นเกมด้านหลัง มิลาน พาฟคอฟ ที่เป็นหน้าเป้า ในเวลาที่ฝั่งกลุ่มเยี่ยม ส่ง ซน ฮึง มิน ที่ได้รับข่าวดีข้างหลังไม่ติดโทษแบนจากเกมลีกเนื่องจากว่ายกเลิกใบแดงเกมสุดช็อกที่บุกเจ๊าเอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยติดต่อประสานงานร่วมกับ โจวานี่ โล เซลโซ่ และก็เดเล่ อัลลี่ รวมทั้งให้แฮร์รี่ เคน รอเก็บบอลข้างหน้า


ครึ่งแรก นาที 13 กลุ่มเยี่ยมได้ทักก่อนจากจังหวะที่ เอ็นดอมเบเล่ ไหลแม้กระทั่ง แฮร์รี่ เคน กดด้วยขวาแต่ว่ายิงไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไป


นาที 22 เป็นช่องทางของ ซน ฮึง มิน บ้างข้างหลังรับบอลจาก โจวานี่ โล เซลโซ่ ก่อนหวดด้วยซ้ายแต่ว่ายิงค่อยไปบอลพุ่งหลุดกรอบอย่างโชคร้าย


อีกนาทีถัดมา เป็นจังหวะของเจ้าของบ้าน เมื่อ มิลาน พาฟคอฟ ได้กดเน้นย้ำๆบอลพุ่งจนกระทั่ง เปาโล กาซซานิก้า จะต้องออกแรงเซฟทุบบอลออกไปจวนเจียน



นาที 34 ข้างหลังบดอยู่นานท้ายที่สุดกองทัพ "ไก่เดือยทอง" มาพังทลายสกอร์ขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0 บอลเริ่มจาก แฮร์รี่ เคน ที่ยิงสวน มิลาน บอร์ยาน ไปชนเสาบอลจัดการไม่ขาดมาเข้าทาง ซน ฮึง มิน หวดด้วยขวาไปติดบล็อค ก่อนจังหวะถัดมา แฮร์รี่ เคน จะครึ่งยิงครึ่งหนึ่งผ่านมาเสาสอง ซน ฮึง มิน ตามชาร์จบอลไปชนคาน แต่ทว่าในที่สุดเป็น โจวานี่ โล เซลโซ่ ที่วิ่งมาซ้ำดีดบอลตุงตาข่าย


นาที 44 เจ้าของบ้านมีโต้แย้งได้ลุ้นตีเสมอเหมือนกัน มาเตโอ การ์เซีย จ่ายทะลุให้ รายิฟ ฟาน ลา ปาร์ร่า ตะบันด้วยขวาแม้กระนั้นก็ยังไม่ผ่านมือ เปาโล กาซซานิก้า จบครึ่งแรก สเปอร์ส บุกนำ เซอร์เวน่า 1-0


ช่วงหลัง ทรงบอลของ "ไก่เดือยทอง" ยังดียิ่งกว่า รวมทั้งนาที 57 มาได้ประตูหนีห่างเจ้าถิ่น 2-0 บอลสวนกลับเร็ว เดเล่ อัลลี่ รับบอลก่อนไหลนุ่มๆให้ ซน ฮึง มิน จับด้วยซ้ายแล้วตะบันเต็มข้อเสยตาข่ายเสาแรกเข้าไปโดยเด็ดขาด


แค่นี้ไม่พอกัปตันกลุ่มชาติประเทศเกาหลีใต้ มาพังทลายประตูลำดับที่สองของตนเอง ในนาที 61 บอลเริ่มจาก แฮร์รี่ เคน จ่ายตัดแนวรับให้ ดินแดนนี่ โรส หลุดเข้าไปเฉือนเลียดมาเสาสองให้ ดื้อ ฮึง ไม่น วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าไป สเปอร์ส นำห่างเจ้าถิ่น 3-0


นาที 71 แฮร์รี่ เคน ที่ยังไม่มีสกอร์ในเกมนี้พากเพียรสร้างช่องทางบ้างรับรับบอลจาก คริสเตียน อีริคเซ่น แม้กระนั้นเจ้าตัวดันซัดนอกกรอบออกไปแบบได้ลุ้น


ด้านหลังเกม นาที 85 กลุ่มเยี่ยมมาได้ประตูลำดับที่สี่จนได้ จากจังหวะที่ ไรอัน เซสเซอญง ผู้เล่นสำรองที่พึ่งลงมาผ่านบอลให้ คริสเตียน อีริคบวงสรวง ซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างงดงาม


จบเกม สเปอร์ส ย้ำชัยอีกนัดหมายบุกกระหน่ำ เซอร์เวน่า ซเวซด้า กินขาด 4-0 เพิ่มช่องทางเข้ารอบถัดไป


รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม


เซอร์เวน่า ซเวซด้า (4-2-3-1) : มิลาน บอร์ยาน - มาร์โก โกเบลยิช (ยานเดอร์ น.46), มิลอส เดเกเน็ค, เนมานย่า มิลูโนวิช, มิลาน โรดิช - ดูซาน โยวานชิช (โฆเซ่ กานญาส น.62), เนกอส เปโตรวิช - มาเตโอ การ์เซีย (ริชมอนด์ โบอัคเย่ น.68), มาร์โก มาริน, รายิฟ ฟาน ลา ปาร์ร่า - มิลาน พาฟคอฟ


เทรนเนอร์ : วลาดาน มิโลเยวิช


สเปอร์ส (4-2-3-1) : เปาโล กาซซานิก้า - ฮวน ฟอยธ์, เอริก ดายเออร์, ดาวินซอน ซานเชซ, แดนนี่ โรส - มุสซ่า ซิสโซโก้, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ - โจวานี่ โล เซลโซ่ (โอลิเวอร์ สคิปป์ น.86), เดเล่ อัลลี่ (คริสเตียน อีริคเซ่น น. 62), ซน ฮึง มิน (ไรอัน เซสเซอญง น.75)- แฮร์รี่ เคน


เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่



ตรงเวลาถึง 47 ปีมาแล้วที่แกร์ด มึลเลอร์ดาวยิงในตำนานกดผู้เดียว 40 ตุงในฤดูกาลเดียวให้กับบาเยิร์น มิวนิคได้เสร็จ และก็ปัจจุบันนี้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้กำลังมุ่งหน้าทำลายสถิตินั้นอยู่ ด้วยเหตุว่าการทำประตูเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นเหมาะสมที่สุดในชีวิต… ทางเข้าufabetมือถือ


ผ่านไปแค่เพียง 9 เกมในศึกบุนเดสลีกาฤดู 2019/20 เลวานดอฟสกี้กดประตูให้กับสังกัดเดิมไปแล้วถึง 13 ประตู ทำลายสถิติของอดีตกาลสหายร่วมกลุ่มโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อย่างปิเครื่องปรับอากาศ-เอเมอริค โอบาเมยัง ที่ทำประตูได้ตลอด 8 ครั้งแรกของฤดูในลีกสูงสุดของเยอรมนี ซึ่งตอนนี้เลวานยิงต่อเนื่องกันตลอด 9 ครั้งแรกเข้าไปแล้ว


จากประตูที่ยิงใส่เอาก์สบวร์กในแมตช์เดย์ที่ 8 แปลว่าเลวานดอฟสกี้สามารถยิงกลุ่มเพื่อนบ้านที่ประเทศบาวาเรียได้รวม 19 ประตูจากการเจอกันทั้งสิ้น 14 นัดหมาย โดยในห้าเกมหลังสุด เขายิงเบิ้ลได้ถึง 2 ครั้งและก็ทำแฮตทริกได้ 2 หนอีกด้วย


สถิติที่เยี่ยมที่สุดของเลวานข้างหลังผ่านเกมลีกไป 9 ครั้งแรกนั้นอยู่ที่ 12 ประตู ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการยิง 5 ประตูภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 9 นาทีจนถึงเป็นที่กล่าวขวัญในเกมเจอโม้ล์ฟสบวร์กเมื่อฤดูกาล 2015/16 ก่อนจบฤดูด้วยตำแหน่งดาวซัลโวด้วยสถิติทำประตูรวม 30 ลูก ในช่วงฤดูกาลถัดมาเขาทำประตูรวมได้เหมือนเดิม แม้กระนั้นไม่บางทีอาจคุ้มครองป้องกันตำแหน่งดาวซัลโวเอาไว้ได้ แล้วหลังจากนั้นเลวานก็มายึดบัลลังก์ดาวซัลโวคืนได้ในทั้งยัง 2 ฤดูให้ข้างหลังด้วยสถิติ 22 แล้วก็ 29 ประตู

ดาวยิงคนปัจจุบันก่อนเลวานดอฟสกี้ซึ่งสามารถครอบครองรางวัลดาวซัลโวสูงสุดของลีกต่อเนื่องกันสองฤดูได้เสร็จก็คือ อูล์ฟ เคียร์สเทน จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ส่วนนักฟุตบอลในตำนานเพียงผู้เดียวซึ่งสามารถเอารางวัลดาวซัลโว 3 ฤดูติดต่อกันได้เสร็จก็คือ มึงร์ด มึลเลอร์ ตำนานดาวยิงที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวรวมทั้ง 7 ครั้งและก็สามารถทำประตูรวมได้ถึง 40 ลูกในช่วงฤดูกาล 1971/72


ที่น่าดึงดูดเป็นในช่วงฤดูกาลที่มึลเลอร์ยิง 40 ประตู เขาทำเป็นเพียง 3 ประตูเพียงแค่นั้นใน 9 ครั้งแรก และก็หลังจากนั้นจึงค่อยมาไล่ผลาญประตูคู่ปรับเอาต่อจากนั้น โดยการทำแฮตทริกไปได้ 4 ครั้ง เหมา 4 ประตูในนัดหมายเดียว 1 ครั้งและก็กด 5 ประตูในนัดหมายเดียวอีกรอบหนึ่ง มึลเลอร์คงจะทำเป็นมากยิ่งกว่านี้ด้วยถ้าหากไม่พลาดลูกจุดลูกโทษไป 3 ครั้งในตอนครึ่งฤดูแรก ซึ่งเลวานดอฟสกี้ก็เคยพลาดจุดลูกโทษ 3 คราวด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเป็น 3 การพลาดจุดลูกโทษที่นับตลอดอาชีพค้าลำแข้งในบุนเดสลีกาของเขา


ก่อนหน้านี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถทำประตูได้ใกล้เคียงสถิติ 40 ประตูของแกร์ด มึลเลอร์เลยสักคน แม้กระนั้นถึงในขณะนี้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคงจะแลเห็นสัญญาณบางสิ่งจากเลวานแล้วว่าเขากำลังจะทำสำเร็จ ตลอด 8 ฤดูเต็มของเลวานดอฟสกี้ในบุนเดสลีกา เขาทำประตูได้เลขสองตัวมาเสมอ โดยยิงได้เกิน 20 ลูกถึง 5 ฤดูและก็ยิง 30 ลูกอีกสองฤดู มีเพียงแค่ในช่วงฤดูกาลแรกที่เปิดฉากสนามกับดอร์ทมุนด์เพียงแค่นั้นที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไร


ว่ากันตามสถิติแล้ว ถ้าเกิดเลวานดอฟสกี้ยังสามารถรักษาอัตราการทำประตูของตนที่ 1.44 ประตูต่อนัดหมาย เมื่อจบฤดู 2019/20 เขาจะยิงได้ทั้งหมดทั้งปวงถึง 49 ประตูทีเดียว เจ้าตัวคงจะหวังอยู่ลึกๆบ้างล่ะว่าจะลบสถิติของมึงร์ด มึลเลอร์ได้ หากว่าตอนให้สัมภาษณ์จะตอบอย่างนอบน้อมว่ายังมิได้ดูถึงจุดนั้น…

"มันยังเร็วไป… มันก็ดีล่ะที่ทำประตูได้ รวมทั้งผมหวังว่าจะยิงได้แบบงี้เรื่อยประเดี๋ยวก็รู้กัน"


เดี๋ยวนี้เลวานดอฟสกี้รั้งอยู่ในชั้น 4 ของทำเนียบนักฟุตบอลที่ทำประตูในบุนเดสลีกาได้สูงสุดนิรันดร (รวม 215 ประตู) ตามหลังยุปป์ ไฮน์เคส (220 ประตู) เคลาส์ ฟิชเชอร์ (268 ประตู) แล้วก็ แกร์ด มึลเลอร์ (365 ประตู) แม้กระนั้นถ้าเกิดเปรียบเทียบจากอัตราการทำประตูต่อปริมาณนาทีที่ลงเล่นแล้ว มีเพียงแค่มึลเลอร์แค่นั้นที่เหนือกว่าเลวานดอฟสกี้


เลวานดอฟสกี้นับว่าเป็นนักฟุตบอลที่อายุไม่น้อย แม้กระนั้นลำแข้งวัย 31 ปีรายนี้ยังฟิตอยู่เป็นประจำและไม่เคยพลาดการลงสู่สนามในบุนเดสลีกาเกินฤดูละ 4 นัดหมายเลย แม้ว่าจะเป็นได้ยากที่เลวานจะทำประตูในบุนเดสลีกาให้ได้พอๆกับมึลเลอร์ที่ 365 ประตู แม้กระนั้นสถิติยิงฤดูเดียว 40 ประตูดูแล้วน่าจะเพียงพอมีลุ้นในฤดูกาลนี้แหละ...



มาร์โก ซิลวา นายใหญ่เอฟเวอร์ตัน เปิดเผยตนได้เข้าไปเสวนากับ ดื้อรั้น ฮึง-มิน เป็นการส่วนตัวจากเหตุที่ อังเดร โกเมส ข้อเท้าหัก ข้างหลังจบเกมแล้ว พร้อมรับบรรยากาศในห้องแต่งตัว "ลูกกวาดสีน้ำเงิน" เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม เพราะว่าไม่คิดว่าเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มจำเป็นจะต้องมาเจอกับชะตากรรมอย่างนี้ ทางเข้าufabet


มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมฟุตบอล "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เปิดเผยตนได้เข้าไปเสวนาเป็นการส่วนตัวกับ แก่นแก้ว ฮึง-มิน กองหน้าชาวประเทศเกาหลีใต้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อปลอบประโลมนักฟุตบอลจากในกรณีที่มีส่วนทำให้ อังเดร โกเมส ข้อเท้าหักในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เท่ากัน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เดือนพฤศจิกายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา


จากเรื่องที่ สตาร์ลูกหนังดินแดนโสมขาว เข้าไปสกัดข้างหลัง โกเมส จนกระทั่งส่งผลให้คู่ปรปักษ์แทงหลักปะทะกับ แซร์ช โอริเย่ร์ ส่งผลให้ข้อเท้าหักโดยทันที โดยตอนนั้น ฮึง-มิน เอามือปิดหน้าแล้วก็ร้องไห้ตลอด โดยมีเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มสเปอร์ส รวมทั้งนักฟุตบอล "ลูกกวาดสีน้ำเงิน" อุตสาหะเข้ามาปลอบประโลม



ข้างหลังจบเกม เชมัส โคลแมน กัปตันกลุ่ม ได้เข้าไปปลอบประโลม ฮึง-มิน อีกที เหมือนกับ สิลวา ที่ได้โอกาสได้คุยกับนักฟุตบอลเป็นการส่วนตัวแล้ว "มันเป็นตอนๆในขณะที่เหนื่อยยาก ส่วนตัวเราทุกคนด้านในห้องแต่งตัว และก็นักฟุตบอลของพวกเรา แต่ว่าผมเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่า อังเดร จะกลับมาอดทนในฐานะคนๆหนึ่งรวมทั้งนักเตะ เนื่องจากเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่สุดดีเลิศ"


"ข้างในห้องแต่งตัวนักฟุตบอลของพวกเราทุกคนเศร้าใจมากมายๆเดี๋ยวนี้ แม้กระนั้นสปิริตที่พวกเราแสดงออกมาให้มองเห็นในสนามชี้ว่าให้พวกท่านได้มองเห็นปฏิกิริยาสนองตอบที่พวกเรามีเพื่อเขาแล้ว ผมได้สนทนากับ ดื้อ ต่อจากนั้น แล้วก็นักฟุตบอลท็อตแน่มบางบุคคล แน่ๆว่ามันเป็นการเข้าปะทะที่ร้ายแรงจาก ดื้อ แม้กระนั้นจะต้องเป็นธรรมกับเขาในจังหวะนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ไม่ดีใส่ อังเดร ผมไม่คิดว่าความมองเห็นของผมจะเปลี่ยนอะไรได้"


"สำหรับในตอนนี้ อังเดร โกเมส ถูกส่งตัวไปที่ โรงหมอแล้ว กลุ่มหมอของเขาได้พากเพียรควบคุมทุกๆอย่าง และก็จะมีการแจ้งข่าวเพิ่มอีก พวกเราจำต้องรอจวบจนกระทั่งจะมีการจัดการทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้กระจ่างเพิ่มมากขึ้น แน่ๆว่ามันเป็นช่วงๆในเวลาที่ตกต่ำส่วนตัวสำหรับเรา และก็สำหรับกลุ่ม มันเป็นมากกว่าเกมบอล นี่เป็นเรื่องสำคัญมากมายๆขณะนี้ที่พวกเราจะต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม" สิลวา กำหนด




ราฮีม สเตอร์ลิง ดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ เปิดใจ การได้ไปอยู่กับ หงส์แดง ตั้งแต่ระดับอะคาเดมี่นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อตนเป็นอย่างมาก จากการที่ก่อนหน้านั้นจำเป็นต้องดำเนินชีวิตอย่างยากลำเค็ญในกรุงลอนดอน แทงหวยUFABET


ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดชมรมที่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พูดว่าการได้ย้ายไปอยู่กับ หงส์แดง มันเป็นประโยชน์ต่อตนมากมายๆเพราะว่ามันช่วยปรับให้ตนได้ไปดำเนินชีวิตในย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีมากกว่ากรุงลอนดอนด้วย


สเตอร์ลิง ย้ายจากจาเมก้า มาอยู่ที่สหราชอาณาจักรตั้งแต่ในขณะที่อายุ 5 ขวบ โดยในช่วงเวลานั้นครอบครัวของเขาเลือกอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ซึ่งมันก็ทำให้ สเตอร์ลิง ไปเข้าอะคาเดมี่ของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ก่อนจะโยกไปเข้าศูนย์ฝึกหัดเยาวชนของ หงส์แดง ในปี 2010 ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้ย้ายไปดำรงชีวิตในเมืองหงส์แดงตามไปด้วย


สเตอร์ลิง เปิดเผยว่า "คุณเติบโตมาในพื้นที่กลุ่มนี้ แล้วก็ทุกสิ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เด็กบางบุคคลบางครั้งก็อาจจะมีความเห็นว่าคุณมาจากที่อื่นๆ แล้วต้องการลักขโมยบางสิ่งบางอย่างไปจากคุณซนๆถ้าหากคุณรู้สึกว่า -ไม่ ให้ตายอย่างไรฉันก็ไม่ให้พวกมึงหรอก- แล้วล่ะก็ มันก็บางทีอาจจกำเนิดความอลหม่านได้ในทันทีโดยที่ไม่ต้องมีเหตุมีผลใดๆก็ตามทั้งหมด ตอนอยู่ที่กรุงลอนดอนน่ะ มีหลายคราวที่เรืองมันวุ่นสุดๆ"


"ผมรักทุกนาที (ที่ได้อยู่กับ หงส์แดง) มันบางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเลย ผมได้เปลี่ยนแปลงสถานที่, ได้พบกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆมันให้อารมณ์ราวกับว่าพระเจ้าท่านได้มอบการเริ่มต้นครั้งใหม่ให้กับผมเลยล่ะ"




เดวิด มอยส์ สมัยก่อนผู้จัดการทีมฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด เจาะจง ไม่ว่าจะอย่างไรกองทัพ "ซาตานแดง" ก็ไม่สมควรจะขาย ปอล ป็อกบา กองกลางชาวประเทศฝรั่งเศส พร้อมชี้ ในขณะที่ทำผลงานเจริญกับ ยูเวนตุส นั้น ป็อกบา ได้อยู่ในจุดที่สูงกว่าตอนนี้เล็กน้อย ทีเด็ดเว็บพนันออนไลน์


เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลไม่มีงานทำชาวสกอตต์ แสดงความเลื่อมใสว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมาคมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่สมควรขาย ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์คนที่ใครๆก็รู้จักออกมาจากกลุ่มด้วยประการทั้งปวง


หากแม้จะได้รับคำกล่าวชมจากหลายท่านว่ายอดเยี่ยมในมิดฟิลด์ที่มีฝีเท้าเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ แม้กระนั้น ป็อกบา กลับไม่อาจจะโชว์ฟอร์มอย่างงั้นออกมาได้บ่อยมากเยอะแค่ไหนในขณะที่ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่งทำให้เขาชอบโดนว่ากล่าวอย่างมาก เวลาเดียวกันเจ้าตัวก็กลายเป็นข่าวสารเกี่ยวกับการย้ายกลุ่มอย่างมากในตอนซัมเมอร์ก่อนหน้าที่ผ่านมาด้วย รวมทั้งแม้ว่าเขาจะยังอยู่กับกลุ่มต่อ แต่ว่าข่าวลือประเด็นการย้ายกลุ่มของหน้าแข้งเลือดน้ำหอมก็ยังมีออกมาเรื่อย


มอยส์ กล่าวระหว่างออกรายการของ ทอล์คสปอร์ต สื่อกีฬารายหนึ่งว่า "จนกระทั่งเวลานี้ ป็อกบา ก็ยังเป็นกองกึ่งกลางที่เก่งที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ เขาสามารถเล่นให้กลุ่มไหนก็ได้ในโลกนี้ และก็หากมองเฉพาะในทวีปยุโรปก็ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ไม่ว่าจะไปอยู่กับกลุ่มไหนเขาก็จะได้ลงเล่นแน่ๆ"


"ผมก็มิได้ถึงกับขนาดมั่นอกมั่นใจอยู่เสมอหรอกนะว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่เล่นได้ดิบได้ดีแบบเสมอต้นเสมอปลาย และก็สามารถสร้างความต่างได้ทุกเวลารึเปล่า ถ้าเกิดมองเฉพาะเรื่องราวของเขาแล้วน่ะ คุณก็ย่อมจำเป็นต้องหวังว่าเขาจะสร้างความต่างได้เป็นปกติ ซึ่งมันก็เกิดเรื่องจริงที่เขามิได้สร้างความต่างได้อยู่ตลอด แต่ว่าผมรู้สึกว่าเขาควรจำเป็นต้องอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถัดไปรึเปล่าน่ะหรอ ? คำตอบก็คือใช่ ผมคิดอย่างงั้น"



"ผมไม่คิดว่าเขาจะช่วยทำให้กลุ่มชนะได้ราวกับอย่างที่ (ลิโอเนล) เมสซี่ ทำเป็นกับ บาร์เซโลน่า หรืออย่างที่ (คริสเตียโน่) โรนัลโด้ ทำเป็นกับ ยูเวนตุส แม้กระนั้นผมยังมีความรู้สึกว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์สูงสุดๆอยู่ เขาสามารถทำเป็นหลายแบบ"


"ยุคที่เขาอยู่กับ ยูเวนเหม็นตุส เขาเล่นในตำแหน่งที่สูงกว่าปัจจุบันนี้เล็กน้อย ตอนคงที่โน่นเขาได้อยู่ในจุดที่ใกล้กรอบจุดโทษหลายครั้งกว่าปัจจุบันนี้ แต่ว่าแน่ๆว่าถ้าเกิดคุณจะต้องจัดกลุ่มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากขุมกำลังชุดนี้แล้วล่ะก็ ป็อกบา ก็จำเป็นต้องติดกลุ่มในตำแหน่งดินแดนกึ่งกลางอยู่เป็นประจำ"




จังหวัดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงกลับมาเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี 3-1 ทำให้พวกเขายังรั้งหัวหน้าฝูงต่ออย่างแน่นแฟ้น โดยมีแต้มนำ ราชสีห์ จังหวัดเชียงราย รองผู้นำฝูง 2 แต้ม โดยนัดหมายในที่สุดแม้ "พระราชวังสายฟ้า" บุกไปเอาชนะ จังหวัดเชียงใหม่ จะครอบครองแชมป์ในทันที ส่วน "สิงห์เจ้าท่า" ร่วงไปรั้งที่ 3 หมดลุ้นแชมป์แน่ๆแล้ว เทคนิคการเล่นรูเล็ต


ศึกลุ้นแชมป์ ผู้นำฝูง จังหวัดบุรีรัมย์ ของผู้จัดการทีม โบซิดาร์ บันโดวิช จัดเต็มหวังคว้าสามแต้มเพิ่มจังหวะคุ้มครองแชมป์ ตัวหลักๆจากกลุ่มชาติไทยลงไปในสนามทั้งยัง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ, นฤบดินทร์ วีวัฒโนดม ส่วนแดนหน้านำโดย นาเซอร์ บาราซิต


ด้าน โชคทวี พระพรหมรัตน์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล ท่าเรือ ที่เพิ่งจะรับรางวัลผู้ฝึกสอนดีที่สุดรอบเดือน กันยายน 62 ที่ตามหลังหัวหน้าฝูงเพียงแค่ 2 แต้ม จำต้องไม่มี โก ซุล กิ สมัยก่อนหน้าแข้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ติดโทษแบน ตอนที่ตัวกลุ่มชาติไทยอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และก็ นิติดงษ์ เสลานนท์ ผ่านความฟิตพร้อมฝ่า รวมทั้งตัวที่มิได้ลงอย่าง เอเลียส ดอเลาะ และก็ บดินทร์ เขาหินลา ส่วนแนวรุกนำโดย เซร์คิโอ ซัวเรซ รวมทั้ง โจซิมาร์ โรดริเกส


รายนามผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน แม่น้ำ ยกทอง, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ธเนศ ยกชื่น, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 อภิชิต โนพวน, ผู้ตัดสินที่ 4 นิวัฒน์ อินสอาด, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน ชลัช ภิรมย์, ผู้ควบคุมการประลอง ขั้นรัณย์ วัววสุรัตน์


ไทยลีก 2019 เกมบิ๊กแมตช์ชี้ชะตาแชมป์ นัดหมายรองในที่สุด ที่สนามจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าฝูงจังหวัดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี 54 แต้ม เปิดบ้านจัดการการท่าเรือ เอฟซี รองผู้นำฝูงที่มี 52 แต้ม เกมนี้ผู้ใดชนะได้โอกาสเป็นแชมป์ในเกมท้ายที่สุดสูง


    ออกสตาร์ตครึ่งแรก น.5 บุรีรัมย์ได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ โยนไปเสาสอง อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ได้โหม่งแต่บอลยังเหินข้ามคาน 


    ถัดมานาทีเดียว น.6 การท่าเรือได้โต้กลับเร็วจากริมขวา ปกรณ์ เปรมภักดิ์ โยนกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลไปตกชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย


    ถึง น.19 การท่าเรือได้เฮสนั่นจากลูกยิงไกลด้วยขวานอกกรอบของ เซร์คิโอ ซัวเรซ บอลตกพื้นหนึ่งจังหวะก่อนพุ่งเช็ดเสาไกลเข้าไป การท่าเรือบุกนำบุรีรัมย์ 1-0   


    น.22 บุรีรัมย์ได้ลูกเตะมุมถึง 3 ครั้งติดต่อกันแต่บอลยังไม่ผ่านมือ วรวุฒิ ศรีสุภา นายด่านการท่าเรือที่บินปัดทิ้งแบบไม่กลัวเจ็บ แม้จะโดนปะทะกลางอากาศจนล้มฟุ้บ แต่ก็ยังลุกขึ้นมาเล่นต่อได้  


    น.33 บุรีรัมย์ตีเสมอจากลูกหลุดเข้าไปยิงของ นาสเซอร์ บาราซิส ที่ซัดให้บุรีรัมย์ตีเสมอ 1-1 โดยฝั่งการท่าเรือมองว่าลูกนี้น่าจะเป็นการยืนล้ำหน้าของบาราซิตหรือไม่แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร 


    น.35 การท่าเรือเสียบอลที่ริมเส้นขวา ศศลักษณ์ ไหประโคน ตัดบอลได้ก่อนแทงเร็วให้ สุภโชค สารชาติ หลุดเดี่ยวก่อนเตะหนี วรวุฒิ ศรีสุภา เข้าไปยิงโล่งๆ บุรีรัมย์พลิกแซงนำ 2-1 


    น.42 เซร์คิโอ ซัวเรซ กองหน้าการท่าเรือโดนแนวรับเจ้าถิ่นแซะล้มในกรอบเขตโทษ พร้อมโวยว่าน่าจะเป็นจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อไปจบครึ่งแรกบุรีรัมย์นำการท่าเรือ 2-1 


    กลับมาลุยในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนผู้เล่น น.57 สุภโชค สารชาติ กองหน้าบุรีรัมย์หลุดเดี่ยวเข้าไปแล้ว แต่ถูกจับล้ำหน้า 

    น.60 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กขวาบุรีรัมย์โดนใบเหลืองจากจังหวะที่ไปสอย บดินทร์ ผาลา ปีกรุกการท่าเรือที่ริมเส้น 


    น.62 โชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือการท่าเรือส่ง โรนัลโด้ แบล็คเบิร์น กองหน้าต่างชาติ ลงมาเล่นแทน บดินทร์ ผาลา 


    น.68 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก ก่อนที่จะเป็น เคลวิน อินเกรโซ่ ปั่นฟรีคิกเข้าไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ การท่าเรือ เอฟซี 3-1 


    จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ การท่าเรือ เอฟซี 3-1 การท่าเรือ เอฟซี หมดลุ้นแชมป์ไทยลีกอย่างเป็นทางการแล้ว แต้มหยุดอยู่ที่ 52 แต้มจาก 29 นัด ห่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 แต้ม เหลือลุ้นแชมป์เดียวคือแชมป์เอฟเอ คัพ 2019 ที่จะชิงกับ ราชบุรี มิตรผล ในวันเสาร์ที่ 2 พ.ย. 62 ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม โดยแชมป์จะได้ไปเอเอฟซี แชมปี้ยนส์ ลีก 2020 รอบเพลย์ออฟ ด่านสอง 


    ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นจ่าฝูง มี 57 แต้มจาก 29 นัด ต้องไปลุ้นแชมป์นัดสุดท้ายร่วมกับ สิงห์ เชียงราย ที่มี 55 แต้มจาก 29 นัด โปรแกรมนัดสุดท้ายไทยลีก 2019 สำหรับ 2 ทีมลุ้นแชมป์ แข่งพร้อมกันทุกสนาม เสาร์ที่ 26 ต.ค. 62, เชียงใหม่ เอฟซี พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนามสมโภช เชียงใหม่ 700 ปี เวลา 18.00 น. และ สุพรรณบุรี เอฟซี พบ สิงห์ เชียงราย ที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี เวลา 18.00 น. 


    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ สิงห์ เชียงราย จะมีกรณีเดียวที่แต้มของทั้งคู่จะเท่ากันที่ 58 แต้ม คือ บุรีรัมย์ บุกไปเสมอ เชียงใหม่ และ สิงห์ เชียงราย บุกชนะ สุพรรณบุรี จะทำให้ทั้ง 2 ทีมมี 58 แต้ม หากแต้มเท่ากัน จะเป็น สิงห์ เชียงราย ที่จะคว้าแชมป์ไทยลีก 2019 เนื่องจากมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า (เลกแรก บุรีรัมย์ ชนะ 1-0 / เลกสอง สิงห์ เชียงราย ชนะ 4-0) 


 

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) 7, อันเดรส ตูเนส 7, ศศลักษณ์ ไหประโคน 7, ฮาจิเมะ โฮโซไก 7, ศุภชัย ใจเด็ด 7, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม 7, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน 7.5, สุภโชค สารชาติ 7.5 (แทน น.82 ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา- ), เควิน อินเกรโซ 7(แทน น.90+3 อิรฟาน ดอเลาะ-), รัตนากร ใหม่คามิ 7, นาสเซอร์ บาราซิส 7 (แทน น.87 ราสมุน ยอร์นสัน- )  


    การท่าเรือ เอฟซี : วรวุฒิ ศรีสุภา (ผู้รักษาประตู) 7, เอเลียส ดอเลาะ 7, เซอร์คิโอ ซัวเรส 7, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ 7(แทน น.71 นูรูล ศรียามเก็ม 6.5 ), บดินทร์ ผาลา 7(แทน น.62 โรนัลโด้ แบล็คเบิร์น 6 ), สุมัญญา ปุริสาย 7(แทน น.80 มาร์ติน สตูเบิ้ล- ), ศิวกร จักขุประสาท 7, โจซิมาร์ 7, นิติพงษ์ เสลานนท์ 7, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 7, เควิน ดีรมรัมย์ 7    





เปิด 5 เหตุผลที่ หงส์แดง จะบุกไปเก็บ 3 คะแนนจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กับรักษาสถิติชนะทุกนัดหมายในเกมลีกฤดูนี้ถัดไป แทงบอลชุดออนไลน์


พบร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล หงส์แดง จะนำกองทัพ" ลิเวอร์พูล" บุกไปเยี่ยม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 20 เดือนตุลาคมนี้

ถ้าเกิด "ลิเวอร์พูล" คว้าชัยได้เสร็จจะมีผลให้พวกเขาชนะในลีกฤดูนี้ 9 ครั้งติดต่อกัน รวมทั้งเพิ่มช่องทางได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก มากยิ่งขึ้นรวมทั้งนี่เป็น 5 เหตุผลที่จะทำให้ หงส์แดง บุกไปเก็บชัยถึงโรงแสดงละครที่ความฝัน


1. ฟอร์มแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

หงส์แดง คว้าชัยในลีกมา 8 นัดหมายติด ทำให้เก็บไป 24 คะแนนเต็ม ทิ้ง แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า ถึง 8 แต้ม ก่อนที่จะ "เรือใบสีฟ้า" จะบุกไปเยี่ยม คริสตัล พาเลซ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม

นอกเหนือจากนั้น "ลิเวอร์พูล" ยังยิงไปถึง 20 ประตู และก็เพิ่งจะเสียไปเพียงแค่ 6 ลูกเพียงแค่นั้น ทำให้เห็นว่า อีกทั้งแนวรุกแล้วก็แนวรับทำผลงานได้ดีเยี่ยม

ในช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งชั้น 12 ของตารางก่อนเกมสุดสัปดาห์นี้ ข้างหลังเตะไป 8 นัดหมายมีเพียงแค่ 9 คะแนน เหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ 2 แต้มเพียงแค่นั้น แถมเกมปัจจุบันยังออกไปแพ้ นิวติดอยู่สเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1 ทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีม "ปีศาจแดง" ออกสตาร์ตฤดูกาลได้ทรามสุดในรอบ 30 ปีอย่างยิ่งจริงๆ


2. แนวรุกผีสุดแข็งทื่อ

แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเจอปัญหาหัวข้อการทำแต้ม ข้างหลังเพิ่งจะยิงไปเพียงแค่ 9 ลูกในลีกฤดูนี้ น้อยกว่า นอริช สิตี้ กลุ่มชั้น 19 ที่ยิงไป 10 ลูกเสียอีก

"ปีศาจแดง" ออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างสวยงาม ด้วยการถล่ม เชลซี ไปถึง 4-0 แม้กระนั้นอีก 7 นัดหมายถัดมา ยิงรวมกันไปเพียงแค่ 5 ประตูแค่นั้น ทำให้ดูแล้วอาจจะเกิดเรื่องยากที่จะเจาะแนวรับของ หงส์แดง ที่ฤดูกาลนี้พึ่งเสียไปเพียงแค่ 6 ประตูเพียงแค่นั้น


3. เคยมีบทเรียนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้ว

หงส์แดง บุกไปเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 ช่วงท้ายฤดูก่อนเมื่อกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ โดยเวลานั้นนำเป็นหัวหน้าฝูงเช่นกัน


จากผลเสมอในนัดหมายนั้นมีส่วนทำให้ในที่สุด "ลิเวอร์พูล" พลาดคว้าชัยชนะ พรีเมียร์ลีก ฤดูที่แล้วไปอย่างโชคร้าย ข้างหลังแพ้ แมนฯ ซิตี้ ไปเพียงแค่คะแนนเดียวเพียงแค่นั้น

คล็อปป์ พิสูจน์ให้มีความเห็นว่า เป็นผู้จัดการทีมซึ่งสามารถเอาบทเรียนในอดีตกาลมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นดังที่เคยพลาดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่จะปีถัดมาจะเอาแชมป์ได้เสร็จ

แน่ๆว่า คล็อปป์ คงจะคิดแผนเกมนี้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งกระตุ้นเร้าผู้ร่วมทีมให้มาเก็บ 3 คะแนนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ได้ ไม่ใช่แค่พึงพอใจกับผลเสมอ


4. นักฟุตบอลเจ้าถิ่นเจ็บเยอะ

โซลชา จะต้องประสบปัญหานักฟุตบอลสำคัญเจ็บหลายรายก่อนหน้าเกมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาบิด เด เคอา นายทวารกลุ่มชาติประเทศสเปน, ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์กลุ่มชาติประเทศฝรั่งเศส แล้วก็ ลุค ชอว์ แบ็กซ้าย


นอกเหนือจากนี้ "ปีศาจแดง" ยังจำต้องลุ้นในรายของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, อารอน วาน-บิสซาก้า รวมทั้ง เจสซี่ ลินการ์ด ว่าจะลงเล่นได้หรือเปล่าอีกด้วย

เวลาที่ หงส์แดง ดูเหมือนจะมีแต่ว่าข่าวดี ข้างหลังอีกทั้ง อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูกลุ่มชาติบราซิล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกลุ่มชาติอียิปต์ แล้วก็ โฌแอล มาว่ากล่าวป ด่านข้างหลังจอมเข้มแข็ง กลับมาฟิตบริบูรณ์แล้ว


5. แรงกระตุ้นที่จะทำลายสถิติ

สมาชิกของ คล็อปป์ คว้าชัยในลีกมาแล้ว 17 เกมต่อเนื่องกันนับจากฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ได้โอกาสทำลายสถิติชนะต่อเนื่องกันมากมายสุดใน พรีเมียร์ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำไว้ 18 นัดหมายเมื่อปี 2017


แม้ "ลิเวอร์พูล" บุกไปชนะในเกมแดงเดือดก็จะทำสถิติทาบ "เรือใบสีฟ้า" ก่อนไปลุ้นทำลายสถิติในเกมเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันอาทิตย์ที่ 27 เดือนตุลาคมนี้

นอกเหนือจากนั้น หงส์แดง ยังมีความต้องการเป็นอย่างมากที่จะกลับมาคว้าชัยชนะลีกอีกรอบให้ได้ด้วย ข้างหลังห่างเหินมานานถึง 30 ปีแล้ว



สมาพันธ์บอลทวีปเอเชีย หรือ เอเอฟซี รายงานข่าวสารลงสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คเกี่ยวกับการชื่นชม "บุ๊ค"เอกนิษฐ์ ปัญญา ดาวรุ่งของ สิงห์ จังหวัดเชียงราย ยูไนเต็ด ที่สร้างผลงานกับกลุ่มชาติไทยกระทั่งแจ้งกำเนิดแบบสุดกำลัง ทีเด็ดแทงบอลแม่นๆ


เอกนิษฐ์ ทำ 1 แอสซิสต์ และก็ 1 ประตู ทำให้ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก จนถึงเอเอฟซีออกมาสรรเสริฐด้วยการใช้คำว่า "Match-winning goal and an assist for Eakkanit Punya against UAE. And, he's only 19 years old!" หรือ "เกมแห่งความมีชัย 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ใส่ ยูเออี รวมทั้งเจาอายุ 19 ปีเพียงแค่นั้น"


โดยจบเกมดังกล่าวมาแล้วข้างต้นแนวรุก "กว่างโซ้งมหาภัย"เปิดใจว่า "ผมพึงพอใจฟอร์มของตนในระดับหนึ่ง แต่ว่าก็จำเป็นต้องปรับแก้อีกเยอะแยะ ส่วนหนึ่งส่วนใดที่พวกเราปรับปรุงขึ้น เชื่อมั่นในตนเองมากยิ่งขึ้นก็เป็นด้วยเหตุว่าพวกเราได้ได้โอกาสมาเก็บเนื้อเก็บตัวซ้อมกับรุ่นพี่อย่างสม่ำเสมอ ในขณะนี้ก็พอเข้าใจระบบต่างๆของผู้ฝึกสอน แล้วก็เริ่มปรับจูนเข้าพบพี่ๆในกลุ่ม ได้มากขึ้น"


"การทำประตูแรกในชื่อกลุ่มชาติ ผมไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะยิงได้ มันเป็นจังหวะบอล ที่ พี่ความรื่นเริง (นิติพงษ์ เสลานนท์) เปิดมา แล้วบอลมาถึงเสาสองที่ผมยืนอยู่พอดิบพอดี เพียงพอบอลมันเข้าไป มันดีแล้วใจมาก แต่ว่าก็แอบเสียดาย ที่บิดามารดามิได้มาเชียร์ผมที่สนามในวันนี้ เมื่อก่อนเกม บิดามารดาก็โทรมาบอกให้ผมสู้ๆนะ การได้ลงเล่นให้กลุ่มชาติโดยตลอดทำให้ในเวลานี้ผม มีความเชื่อมั่นอย่างสม่ำเสมอ"




สมาคมลูกหนังเมืองผู้ดี ประกาศสั่งแบน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ปีกดาวรุ่ง หงส์แดง จากการเล่นในประเทศทุกระดับตรงเวลา 14 วัน ข้างหลังโพสต์คลิปโชว์สั้นปากเบาแขวะ แฮร์รี่ เคน หัวหอกเลือดผู้ดีในเกมที่แพ้ "ลิเวอร์พูล" นัดหมายชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แทงบอลออนไลน์บนมือถือUFABET


สัมพันธ์บอลอังกฤษ (เอฟเอ) คำชี้แจงรับรองได้ลงทัณฑ์แบน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ปีกดาวโรจน์ "ลิเวอร์พูล" หงส์แดง ห้ามลงเล่นบอลภายในประเทศทั้งปวงตรงเวลา 14 วัน ภายหลังที่นักฟุตบอลโพสต์คลิปล้อเลียน แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่ง "ไก่เดือยทองคำ" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์


หน้าแข้งที่อนาคตวัย 16 ปี ซึ่งได้ลงเล่นเปิดตัวกับกลุ่มชุดใหญ่ในเกมที่สังกัดเดิมสอย ไม่ลตัน คีนส์ ดอนส์ ศึกติดอยู่ราบาว คัพ รอบ 3 มีชื่อเสียงว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ "เดอะ เร้ดส์" แล้วก็ทำเรื่องสุดห่ามเมื่ออัดคลิปล้อเลียน เคน แถมยังโพสต์ในสแนปแช็ท ข้างหลังเกมที่กลุ่มรักคว่ำ "ไก่เดือยทองคำ" ครองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา


สำหรับเดี๋ยวนี้ เอลเลียตต์ คงจะได้สำนึกผิดแล้วเมื่อโดน เอฟเอ สั่งห้ามลงเล่นในทุกรายการจนกระทั่งวันที่ 24 เดือนตุลาคมนี้ พร้อมทั้งโดนปรับเงินอีก 350 ปอนด์ (ราว 13,300 บาท) โดยคำอธิบายบอกว่า "ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ โดนสั่งแบนจากการเล่นบอลในประเทศทั้งปวงตรงเวลา 14 วันโดยจะเริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนกระทั่งวันที่ 24 เดือนตุลาคม 2019 ภายหลังจากสารภาพว่าทำผิดกฎข้อ อี 3 ที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์วีดิโอในสื่อโซเชียล รวมทั้งได้ขออภัยต่อหมู่ชนแล้ว"


"การใช้ภาษาแล้วก็/หรือมีความประพฤติในวีดิโอที่ไม่ถูกกฎเอฟเอ ข้อ อี 3 (1) เนื่องจากเป็นการปฏิบัติที่พูดจาว่ากล่าวรวมทั้ง/หรือดูถูกดูแคลน แล้วก็ก่อกำเนิด "การยั่วยุ" ซึ่งได้มีการเจาะจงเอาไว้อย่างแจ่มแจ้งในกฎเอฟเอ ข้อ อี 3 (2) ปีกจากสมาคมหงส์แดง เอฟซี จำต้องเข้ารับการอบรบแบบตัวต่อตัว รวมทั้งจ่ายค่าปรับปริมาณ 350 ปอนด์" คำแถลงฉบับเดิม กำหนด



I BUILT MY SITE FOR FREE USING